สมเด็จพระยอดฟ้า
(พ.ศ.2089-2091)
สมเด็จพระยอดฟ้าเป็นพระเจ้าลูกยาเธอในสมเด็จพระไชยราชาธิราช
ที่ประสูติด้วย ท้าวศรีสุดาจันทร์ (พระสนมเอกลำดับที่ 2) เมื่อ พ.ศ.2078 มีพระอนุชา คือ พระศรีศิลป์ ประสูติ พ.ศ.2083
ขณะนั้นพระเทียรราชา ซึ่งมีศักดิ์เป็นพระอนุชาของสมเด็จพระไชยราชาธิราช
(ประสูติแต่พระสนมเอก) หลังจากพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพสมเด็จพระไชยราชาธิราชเสร็จแล้ว
ได้คิดว่าเห็นจะอยู่ในเพศฆราวาสไม่ได้เสียแล้ว เนื่องจากจะมีภัยมาถึงพระองค์
(เนื่องจากอยู่ในข่ายที่จะได้ขึ้นครองราช) จึงออกไปอุปสมบท ณ วัดราชประดิษฐาน
สมเด็จพระยอดฟ้าได้ขึ้นครองราชสมบัติต่อจากสมเด็จพระราชบิดา เมื่อปี พ.ศ.2089
มีพระชันษาได้ 11 ปี
ท้าวศรีสุดาจันทร์ ได้เป็นชู้กับพันบุตรศรีเทพ (ขุนวรวงศา)
จนมีครรภ์ด้วยขุนวรวงศา
ต่อมาได้ทำพระราชพิธีราชาภิเษกยกขุนวรวงศาธิราชขึ้นเป็นกษัตริย์
โดยอ้างว่าพระยอดฟ้ายังเยาว์นักไม่เหมาะที่จะเป็นพระมหากษัตริย์
ต่อมาขุนวรวงศา คิดกับท้าวศรีสุดาจันทร์
ให้เอาพระยอดฟ้าไปประหารชีวิตเสียที่วัดโคกพระยา ส่วนพระศรีศิลป์พระชนม์ได้ 7 พรรษาให้เลี้ยงไว้ สมเด็จพระยอดฟ้าอยู่ในราชสมบัติได้ 2 ปี กับ 6 เดือน
ฝ่ายขุนพิเรนทรเทพ (เชื้อพระวงศ์)
ขุนอินทรเทพ หมื่นราชเสน่หา หลวงศรียศ ได้ร่วมปรึกษากันเมื่อเห็นแผ่นดินเป็นเช่นนี้
จึงได้วางแผนกำจัดขุนวรวงศากับท้าวศรีสุดาจันทร์
ในคราวไปจับช้างเผือกที่กรมการเมืองลพบุรีแจ้งมา โดยมีการลอบสังหารอุปราชจัน
(น้องชายขุนวรวงศา) ก่อน ซึ่งตอนนั้นเป็นเพลาค่ำ ในแผนให้หมื่นราชเสน่หา
(นอกราชการ) แอบซุ่มอยู่ ครั้นเห็นมหาอุปราชขี่ช้างจะไปเพนียด
หมื่นราชเสน่หาก็ยิงปืนถูกมหาอุปราชตกช้างตาย
ครั้นเช้าตรู่
ขุนวรวงศากับท้าวศรีสุดาจันทร์ และราชบุตรที่เกิดด้วยกัน
รวมทั้งพระศรีศิลป์ก็ลงเรือพระที่นั่งลำเดียวกันมาตรงคลองสระบัว
เหตุการณ์ต่อจากนี้ได้มีการบันทึกไว้ว่า
ฝ่ายขุนอินทรเทพให้พายเรือกระหนาบเรือพระที่นั่ง
ขึ้นมาแล้วช่วยกันกลุ้มรุมจับขุนวรวงศาธิราชกับแม่อยู่หัวเจ้าศรีสุดาจันทร์
และบุตรซึ่งเกิดด้วยกันนั้นฆ่าเสีย แล้วให้เอาศพไปเสียบประจานไว้ ณวัดแร้ง แต่พระศรีศิลป์นั้นเอาไว้
ขุนวรวงศาธิราชอยู่ในสมบัติห้าเดือน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น