วันอังคารที่ 29 ธันวาคม พ.ศ. 2563

วัดนก

วัดนก ตั้งอยู่ถัดจากกำแพงวัดมหาธาตุลงมาทางทิศใต้ ปรากฏชื่อในพระราชพงศาวดารกรุงศรีอยุธยาเมื่อครั้งสมเด็จพระนเรศวรทรงนำพระมหาเถรคันฉ่องกับพระยาเกียรติพระยารามและครัวมอญจากเมืองมอญลงมากรุงศรีอยุธยา สมเด็จพระมหาธรรมราชา (พ.ศ.๒๑๑๒-๒๑๓๓) พระราชบิดา จึงโปรดให้ครัวมอญและญาติโยมของพระมหาเถรคันฉ่องไปตั้งบ้านเรือนอยู่หลังวัดนก ส่วนพระมหาเถรคันฉ่องซึ่งเป็นผู้นำพระยาเกียรติพระยารามมาเฝ้าเพื่อทูลข้อราชการลับของฝ่ายพม่าให้สมเด็จพระนเรศวรทรงทราบถึงแผนการลอบปลงพระชนม์พระองค์นั้น ก็โปรดให้ไปจำพรรษาอยู่ที่วัดมหาธาตุข้างวัดนกนั่นเอง เมื่อได้ชมศิลปะสมัยอยุธยาตอนต้นของวัดมหาธาตุแล้ว ออกจากวัดให้เดินเลี้ยวขวาไปตามบาทวิถี พอพ้นแนวกำแพงวัดแล้วให้เลี้ยวขวาอีกที เดินตรงไปเรื่อย ๆ ก็จะเห็นซากโบราณสถานของวัดนกตั้งเด่นเป็นสง่า ถัดจากกำแพงวัดมหาธาตุลงไปทางซ้ายหน่อยเดียว ดูอาณาบริเวณจนทั่วแล้วคงจัดได้ว่า วัดนกเป็นวัดขนาดเล็ก ภายในวัดประกอบด้วยซากอาคารวิหาร แท่นพระประธานมีซากพระพุทธรูปหันพระพักตร์ไปทางทิศตะวันออก มีปรางค์ประธานขนาดเล็กตั้งอยู่ด้านหลังวิหารหลังวัดนกออกไปปัจจุบันเป็นบริเวณสวนสาธารณะบึงพระราม มองเห็นซากอาคารพระอุโบสถและเจดีย์ประธานทรงลังกาของวัดหลังคาดำอยู่ไกล ๆ ส่วนทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ไปจนถึงวัดโพง เป็นบริเวณที่เอกสารหลักฐานทางประวัติศาสตร์ระบุว่า มีตลาดของชาวมอญ มีร้านขายของชำ ขายของสดเช้าเย็น อีกทั้งยังเป็นตลาดขายเครื่องทองเหลืองขนาดใหญ่ในสมัยอยุธยาเช่น ขัน ถาด พาน เป็นต้น ครัวมอญและญาติโยมของพระมหาเถรคันฉ่อง ก็คงได้รับโปรดเกล้าฯให้มาตั้งบ้านเรือนทำมาหากินอยู่ในย่านตลาดแห่งนี้ โดยปวัตร์ นวะมะรัตน์ จากศิลปวัฒนธรรม ฉบับที่ ๖ เมษายน ๒๕๕๐

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

กรมหลวงโยธาเทพ

กรมหลวงโยธาเทพ ภายหลังออกพระนามว่า สมเด็จพระรูปเจ้า มีพระนามเดิมว่า พระสุดาเทวี (คำให้การชาวกรุงเก่า) หรือ เจ้าฟ้าสุดาวดี (พ.ศ. 2199—2278) เ...